Varity Zone > ห้องนั่งเล่น เฮฮา ไร้สาระ คุยกันเรื่อยเปื่อย

ข่าวด่วนประจำวัน

(1/38) > >>

limited_:
หนุ่มนักศึกษาเอแบค ดิ่งตึกหอพักชั้น 5  ดับ ปริศนา เซ่นรักวันวาเลนไทน์ สอบเพื่อนนักศึกษาที่อยู่หอเดียวกันระบุ ผู้ตายมีอาการซึมเศร้า หลังจากเมื่อหลายเดือนก่อน แฟนสาวไปเรียนต่อต่างประเทศและไปคบหาชายคนใหม่ มักบ่นคิดถึงอดีตสาวคนรักให้เพื่อนฟังเสมอๆ ก่อนเกิดเหตุช่วงดึกยังเจอหน้าพูดคุยกันดี รุ่งเช้ากลายเป็นศพสยองที่พื้นชั้นล่างด้านหลังหอพัก ตำรวจสงสัยสาเหตุฆ่าตัวตายสังเวยรักขม  แต่ไม่ทิ้งประเด็นอุบัติเหตุพลัดตกจากระเบียง

นักศึกษาหนุ่มดิ่งตึก หอพักชั้น 5 ร่างกระแทกพื้นดับสยองรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 14 ก.พ. พ.ต.ท.วิริยะ ระยับ พนักงานสอบสวน สภ.บางบ่อ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีคนตกตึกเสียชีวิตที่หอพักสุขสบาย เลขที่ 124/2 ซอยบางนาการ์เด้น หรือซอย ม.เอแบค หมู่ 8 ต.บางบ่อ จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภวัต พรหมมะกฤต รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.สมศักดิ์ชัย อมรส่งเจริญ ผกก.สภ.บางบ่อ พ.ต.ต.สุดใจ เหนือเกาะหวาย สวป.แพทย์เวร รพ.บางบ่อ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากมหาวิทยา ลัยอัสสัมชัญ บางนา หรือ เอแบค ประมาณ 800 เมตร ลักษณะเป็นหอพักสูง 5 ชั้น บริเวณพื้นปูนด้านหลังหอพักพบศพนายวีรภัทร ตั้งวิจิตรสกุล อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/92-93 ถนนเหมืองหิต ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะ บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ บางนา สภาพนอนคว่ำหน้าคอหัก แขนซ้ายหัก มีเลือดออกทางปากเต็มไปหมด ผู้ตายสวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ

จากการสอบสวนนาย จิตสะอาด อุดามา อายุ 28 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ บางนา เพื่อนของผู้ตาย ให้การว่า นายวีรภัทรพักอยู่ที่หอ พักดังกล่าวหมายเลขห้อง 518 ชั้น 5 ส่วนตนอยู่หอพักเดียวกันแต่คนละห้อง โดยผู้ตายเช่าอยู่เพียงลำพัง ปกตินายวีรภัทรเป็นคนที่เรียนดี ขยัน ไม่ดื่มเหล้า และไม่สูบบุหรี่ ก่อนเกิดเหตุช่วงกลางดึกที่ผ่านมายังเจอหน้าทักทาย กันดีอยู่ จนรุ่งเช้าทราบข่าวร้ายว่านายวีรภัทรตกตึกเสียชีวิต

นักศึกษาเพื่อน ผู้ตายให้การอีกว่า ก่อนหน้านี้นาย วีรภัทรคบหากับแฟนสาวคนหนึ่ง กระทั่งเมื่อหลายเดือนก่อนแฟนสาวไปเรียนต่อต่างประเทศ และตอนหลังทราบข่าวว่าไปมีชายหนุ่มคนใหม่ และได้เลิกคบหากับผู้ตาย เป็นเหตุให้นายวีรภัทรมีอาการซึมเศร้า เนื่องจากยังคงรัก และฝังใจอดีตแฟนสาวคนดังกล่าวมาก แม้ว่าช่วงหลังจะมี หญิงสาวคนอื่นมาพัวพันอยู่บ้าง แต่ผู้ตายก็ยังไม่ลืมหญิง สาวคนแรก และมักบ่นให้เพื่อนๆฟังตลอด

ต่อมาตำรวจขึ้นไปตรวจสอบห้องพักของผู้ ตาย ปรากฏว่าไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด  โดยข้าวของทุกอย่างอยู่ในสภาพปกติ ส่วนด้านหลังเป็นระเบียงยื่นออกไป เล็กน้อย กั้นด้วยลูกกรงสเตนเลสสูง 65 ซม. สำหรับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานไว้ 2 ประเด็น คือ เป็นเรื่องอุบัติเหตุที่ผู้ตายไปยืนที่ระเบียงแล้วพลัดตกลงไป กับอีกประเด็นคืออาจเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากผิดหวังในความรัก เลยตัดสินใจกระโดดตึกบูชารักในวันวาเลนไทน์ อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

Moshi:
เห้ย อะไรเนี่ย ฮ่าๆ

limited_:

--- อ้างจาก: Moshi ที่ กุมภาพันธ์ 15, 2010, 16:20:35 ---เห้ย อะไรเนี่ย ฮ่าๆ

--- End quote ---
ควันหลงวาเลนไทน์

limited_:
หมอชี้ลูกชิ้นเรืองแสงสุดอันตราย

ความคืบหน้าเรื่องลูกชิ้นปลาเรืองแสงที่มีผู้บริโภครายหนึ่งนำเข้าร้องเรียน กับหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ โดยระบุว่าซื้อมาจากตลาดแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ซึ่งแม่ค้าบอกว่าเป็นลูกชิ้นปลาชั้นดีจากเยาวราช เบื้องต้น นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สงสัยว่าลูกชิ้นดังกล่าวอาจเน่าเสียและเรืองแสงได้ เพราะมีแบคทีเรียสูโดโมแนสนั้น เมื่อวันที่ 14 ก.พ. นพ.พิพัฒน์ เลขาธิการ อย. เปิดเผยว่า หลังได้ตัวอย่างลูกชิ้นในวันที่ 15 ก.พ.นี้แล้ว อย. จะส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  ว่ามีการปนเปื้อนแบคทีเรียสูโดโมแนส ตามที่สันนิษฐานไว้หรือไม่ และอาจต้องตรวจหาการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ชนิดอื่น ๆ ด้วย นอกจากนี้ อย. จะลงไปตรวจสอบที่ตลาดดังกล่าว และจะตามไปตรวจสอบโรงงานผลิตลูกชิ้นด้วย
   
ด้าน นพ.นิพนธ์ โพธิ์พัฒนชัย รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ทางกรมฯ ยินดีรับตรวจพิสูจน์ลูกชิ้นปลาเรืองแสง ซึ่งการตรวจหาแบคทีเรียนั้นหากมีปริมาณมากภายใน 24 ชม. ก็จะทราบผล แต่ถ้ามีน้อยคงจะใช้เวลาราว 3 วัน เพราะต้องเพาะเชื้อก่อน แต่ขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่า ลูกชิ้นที่เรืองแสงนั้นเกิดจากแบคทีเรียสูโดโมแนสหรือไม่ หรือว่ามีสารเคมีชนิดอื่นปนเปื้อน เช่น ฟอสฟอรัส ที่ทำให้มีการเรืองแสงได้เช่นกัน เพราะต้องได้รับตัวอย่างและนำมาตรวจก่อน แต่ที่อยากจะบอกก็คือ ไม่น่าจะมีอาหารที่มาจากธรรมชาติแล้วเรืองแสงได้ และอาหารเรืองแสงก็คงไม่ปลอดภัย
   
ขณะที่ นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ. สถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กล่าวว่า หากผลการตรวจออกมาพบว่าลูก ชิ้นปลาเรืองแสงมีแบคทีเรียสูโดโมแนสจริง ก็ค่อนข้างอันตราย เพราะแบคทีเรียชนิดนี้มักพบเจอในบาดแผลของคนเรา โดยเฉพาะบาดแผลที่ลึก ๆ เป็นหลุมใหญ่ ๆ ไม่มีออกซิเจน ซึ่งมันสามารถอยู่ได้ในสภาพที่ไม่มีออกซิเจน ตรงนี้น่ากลัวเพราะถ้ามันลงไปอยู่ที่กระเพาะอาหารหรือลำไส้ของคนเราเมื่อใด มันก็มีโอกาสจะไปอยู่ตามซอกหรือตามกลีบลำไส้เล็ก ๆ ลึก ๆ อย่างสบาย และอาจทำให้เกิดอาการไส้เน่า ลำไส้ติดเชื้อ โลหิตเป็นพิษได้ รวมทั้งอาจทำให้ติดเชื้อในช่องท้อง และเป็นฝีในช่องท้องได้
   
“ปกติเชื้อแบคทีเรียสูโดโมแนสมักจะเจอในสัตว์ หรือสัตว์ที่เป็นแผล หรือในคนเป็นแผลที่มือ ถ้าลูกชิ้นปั้นโดยคนที่มือเป็นแผล มือไม่สะอาด คนซื้อลูกชิ้นมาแล้ว ไม่ได้นำไปลวกอีกที เอาไปกินเลยก็เสี่ยงอันตราย ดังนั้นลูกชิ้นแม้จะล้างแล้ว ลวกแล้ว ถ้าแช่ไว้ในตู้เย็นนาน ๆ ก็อาจมีเชื้อแบคทีเรียตัวนี้ได้ ผมก็ไม่เคยเห็นลูกชิ้นเรืองแสงมาก่อน แต่อย่างที่บอกเชื้อดังกล่าวจะพบในบาดแผลของคนเรา ดังนั้นถ้าบาดแผลมีเชื้อชนิดนี้ก็จะมีกลิ่นอับ ๆ ใครได้กลิ่นสักครั้งจะจำได้ เพราะเป็นกลิ่นพิเศษ”
   
นพ.กฤษดายังกล่าวว่า อาจเป็นไปได้เช่นกันที่ลูกชิ้นดังกล่าวจะมีสารฟอสฟอรัส เพราะฟอสฟอรัสเป็นตัวเดียวกับพรายน้ำในเข็มนาฬิกาเรืองแสง แต่ที่น่าเป็นไปได้คือ แบคทีเรียที่สร้างสารฟลูออเรสซีนสามารถเรืองแสงเวลาโดน แบล็ก ไลต์ หรือยูวี แลมพ์ อย่างไรก็ดี อยากแนะนำการทานลูกชิ้นอย่างปลอดภัย คือแม้คนขายจะบอกว่า ลวกแล้วแต่เราต้องนำมาล้างที่บ้าน หรือลวกอีกครั้ง และถ้านำไปเก็บไว้ในตู้เย็นนาน ๆ หลายวันหรือหลายสัปดาห์ อาจจะต้องนำมาลวกนาน ๆ อีกครั้ง นอกจากนี้ลูกชิ้นบางอย่างถ้าขายราคาถูกเกินไปก็ควรต้องระวังเช่นกัน เพราะอาจจะใช้เนื้อปลาปักเป้า หรือเนื้อปลาที่เก็บไว้นาน ๆ มาทำใหม่ ส่งผลให้อาจจะมีแบคทีเรียสูโดโมแนสปนเปื้อนอยู่ก็เป็นได้.

limited_:
ผู้ดีติงเหยื่อข่มขืน มีส่วนยั่วยุ ให้เกิดคดีสลด

ชายหญิงชาวอังกฤษ 54% แสดงความเห็นว่า เหยื่อถูกข่มขืนควรมีส่วนรับผิดชอบต่อการตกเป็นเป้าถูกข่มขืนด้วย จากการแสดงพฤติกรรมยั่วยวนทางเพศต่างๆ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เมื่อวันที่ 15 ก.พ. ว่าผลสำรวจความคิดเห็นกลุ่มชายหญิงชาวอังกฤษ 1,061 คน ภายใต้หัวข้อ "ระวังถูกข่มขืน" พบว่า ผู้ตอบคำถามเพศหญิงมากราว 54 เปอร์เซ็นต์เห็นว่า เหยื่อถูกข่มขืนควรมีส่วนรับผิดชอบต่อการตกเป็นเป้าถูกข่มขืนด้วย จากพฤติกรรมหลายๆอย่าง อาทิ เต้นยั่วยวนทางเพศ แสดงพฤติกรรมยั่วยวนยั่วยุทางเพศ รวมทั้งการแต่งกายยั่วยวน โป๊เปลือยไม่ถูกกาละเทศะ

น่าแปลกใจที่กลุ่มผู้แสดงความคิดเห็นดัง กล่าว กลับกลายเป็นกลุ่มผู้หญิงมากกว่ากลุ่มผู้ชาย ขณะที่ 1 ใน 10 ของเหยื่อถูกข่มขืนคือกลุ่มคนที่รับเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้า เหยื่อถูกข่มขืน 20 เปอร์เซ็นต์ ไม่กล้าแจ้งความกับตำรวจว่าถูกข่มขืน

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version