ข่าว IT ล่าสุด
ถูกใจอย่าลืม Like Fanpage
Review : Darksiders
แสดงแล้ว 4743 ครั้ง /
มกราคม 13, 2010, 18:44:41

paozars200

ออฟไลน์
กระทู้ : 109
คะแนนขอบคุณ : 0










Zelda, Devil May Cry, God of War ชื่อของเกมเหล่านี้ได้ผุดขึ้นมาในหัวเต็มไปหมดในระหว่างที่ได้เล่น Darksiders เกมใหม่จากผู้สร้าง Vigil Games ที่หลังจากที่เล่นจบแล้วถือได้ว่านี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งเกมม้ามืดของปีนี้เลยก็ว่าได้

คำถามคือ ถ้าในเมื่อ Darksiders ได้เลียนแบบเอาองค์ประกอบหลายๆอย่างของเกมดังกล่าวมาใส่ไว้ในเกมของตัวเองเต็มไปหมด แล้วมันมีดีตรงไหนที่ทำให้เกมใหม่เกมนี้ถูกมองว่าสดใหม่มากพอที่จะเรียกร้องความสนใจจากนักเล่นเกมได้ ?

Darksiders เริ่มต้นที่เรื่องราวของ War หนึ่งในสี่นักรบในตำนาน ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้หาที่มาว่าทำไมโลกปีศาจจึงหลุดออกมาในโลกมนุษย์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ช่วงเริ่มเกมที่ทำให้โลกมนุษย์ของเรากลายเป็นดินแดนที่เป็นสนามรบระหว่างเทพเจ้ากับปีศาจ เกมนี้เริ่มต้นเหตุการณ์ซึ่งเป็นช่วงระหว่างการทำลายล้างโลกมนุษย์ และก่อนที่ War จะสูญเสียพลังจากการต่อสู้กับ Straga ซึ่งแน่นอนว่าเหตุการณ์ในเกมหลังจากนั้น เป็นจุดที่เราต้องไปยังที่ต่างๆเพื่อฟื้นฟูพลังก่อนไปยัง Black Tower เพื่อบรรลุจุดประสงค์ในการหาต้นเหตุของปัญหาในครั้งนี้





โลกในเกมถูกออกแบบมาให้เป็นโลกกว้างที่เราสามารถเดินเท้าเชื่อมไปได้ทุกจุด โดยบางจุดที่เป็นฉากใหม่เราจะยังไม่สามารถไปได้จนกว่าจะได้พลังใหม่บางอย่างที่้สามารถทำลายฉากเพื่อเปิดทางไปใหม่ได้ โดยส่วนใหญ่ของเกมเราจะใช้เวลาไปกับการเดินทางไปยังโลกต่างๆเพื่อค้นหาพลังและปราบบอสเพื่อเอาหัวใจกลับมาคืนให้แก่ Samauel ผู้ซึ่งให้สัญญาว่าจะเปิดทางพาเราไปสู่ Black Tower ได้หากเค้าฟื้นพลังจากหัวใจเหล่านั้นได้หมด (ซึ่งโดยหลักแล้วก็มี 4 จุดใหญ่ที่เราต้องไปจัดการ) ในดินแดนแต่ละส่วนที่เชื่อมต่อกับดินแดนหลักนั้น มีความแตกต่างอย่างชัดเจน ทั้งในส่วนของการออกแบบ รูปแบบการเล่น วิธีการสู้ศัตรู หรือวิธีการจัดการกับปริศนา ถ้าลองหลับตาเปลี่ยนดีไซน์พระเอกและการออกแบบฉาก เราจะได้เกม The Legend of Zelda เวอร์ชั่นตะวันตกมาเลยแบบเต็มๆ

ที่น่าสนใจคือ Darksiders เป็นเกมที่ให้ความสำคัญกับการแก้ปริศนาผ่านฉากมากกว่าที่ตัวเกมแสดงออกให้เราเห็น อย่าคิดว่าเราจะได้เล่นเกมสไตล์ฝรั่งจ๋า ที่ทั้งเกมมีแต่ฟันๆต่อยๆ แล้วมีปริศนาผ่านฉากง่ายๆ พอเป็นกระสัย เพราะหลายๆจุดในเกมนี้ต้องใช้สมองขบคิดในการหาวิธีผ่านทาง หรือการเอาไอเทมเพื่อเปิดประตู ไอเทมหรืออาวุธใหม่ๆที่เราได้มานั้น ก็ถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปริศนาด้วยเช่นเดียวกัน (แต่จะมีอะไรบ้างนั้นไปเจอกันเอาเองในเกมนะ) นี่ถือเป็นอีกพัฒนาการสำคัญของเกมแอคชั่นฝั่งตะวันตก ที่โดยปกติจะไม่ค่อยให้ความสำคัญในส่วนนี้มากนัก โดยเฉพาะฉากหลังๆ บางฉากที่แทบจะเรียกได้ว่า 70% ของฉากเป็นการแก้ปริศเลยก็ว่าได้





รูปแบบการต่อสู้ของเกมถูกออกแบบมาอย่างมีชั้นเชิง ตัวละครเอกของเราจะได้รับความสามารถใหม่ๆ และทยอยอัพเกรตอาวุธมากขึ้นเรื่อยๆ ตามความคืบหน้าที่ดำเนินไประหว่างเกม การจัดวางช่วงเวลาและจุดที่เราได้รับอาวุธหรือความสามารถใหม่เข้ามานั้น ทำได้ค่อนข้างดี และน่าดึงดูดมากพอที่จะทำให้เราอยากเล่นต่อไปได้เรื่อยๆ ระบบการต่อสู้มีรูปแบบการโจมตีทั้งการโจมตีด้วยอาวุธระยะใกล้เช่นดาบ อาวุธระยะไกลเช่นปืนหรือกงจักร ระบบการบล้อก รูปแบบการแดชหลบ เกมไม่ได้เน้นไปที่การทำคอมโบต่อเนื่อง แต่เป็นการกะจังหวะการโจมตี โดยอาศัยการแดชหลบและการบล้อคเพื่อป้องกันเป็นหลัก (แต่โดยส่วนใหญ่บล้อกจะใช้ไม่ค่อยได้กับศัตรูตัวโตๆ ความสามารถในการแดชหลบจึงค่อนข้างเป็นหัวใจสำคัญสำหรับเกมนี้) เกมนี้มีอาวุธหลักๆเพียงแค่ 3 อย่างคือ ดาบ เคียว และหมัดน้ำแข๊ง ส่วนอาวุธย่อยที่ใช้ได้ทั้งเป็นตัวช่วยในการสู้ หรือเอามาแก้ปริศนา ก็มี ปืน, กงจักร, Slingshot (สองอันนี้เหมือน Zelda มากกกกกก) นอกจากนี้ระหว่างเล่นเราสามารถแปลงเป็นสัตว์อสูรได้ด้วยนะ มีข้อดีตรงเป็นอมตะและโจมตีแรงขึ้น





ศัตรูทุกตัวในเกมเราสามารถทำ Finishing ได้หมด นั่นคือเมื่อใกล้ตายจะขึ้นตัว B มาบนหัว ที่จะให้เราเข้าไปฆ่าให้ตายทันที สำหรับการกด B ที่จะเป็นการจับในโหมดปกตินั้น ก็ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการฆ่าศัตรูแตกต่างได้เช่นเดียวกัน ศัตรูทุกตัวที่ตายจะให้ Soul กับเรา ซึ่งมีสามรูปแบบ คือสีเหลือง ใช้สำหรับเติมเวท, สีน้ำเงินใช้ซื้อของ, และสีเขียวใช้เพิ่มพลัง (ตรงนี้ให้นึกถึง Devil May Cry แล้วจะนึกภาพออก)

แต่ถ้าคิดว่าระบบอาวุธหลัก อาวุธย่อย และระบบการต่อสู้อื่นๆที่เราทยอยได้เพิ่มมาเรื่อยๆระหว่างเกมมันยังไม่หลากหลายพอ เกมนี้ยังมีระบบ slot ที่เราสามารถซื้อความสามารถพิเศษมาใส่ Slot 4 Slot ที่จะช่วยให้เราทำนั่นนี่ระหว่างสู้ได้ (เช่นท่าทุบดิน หรือ Ability ที่ช่วยให้ตัวเรามีพลังป้องกันเพิ่มขึ้นระดับนึงระหว่างสู้ เป็นต้น) การเปลี่ยนอาวุธหรือกดใช้ Ability สามารถทำได้ทันทีผ่าน D Pad และการผสมปุ่ม LB + A,B,C,D หากเราได้ท่าหรืออาวุธที่เกินกว่าโควต้า เราก็สามารถเลือก Assign ได้ว่าจะให้ของชิ้นไหนเข้าที่ปุ่มไหน ท่าทุกท่าในเกมเราต้องซื้อผ่านพ่อค้าเท่านั้น โดยเอา Soul ที่ได้จากการปราบศัตรูมาเป็นเงิน สำหรับการปราบศัตรู วิธีการจัดการที่ไม่เหมือนกัน ก็ส่งผลให้ Soul ที่ได้รับแตกต่างกันได้เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่นศัตรูอย่างซอมบี้ หากเราเลือกที่จะปราบด้วยการจับ เราก็จะได้ Soul เติมพลังแทนที่จะเป็น Soul เติมเวทหรือ Soul ใช้ซื้อของแบบปกติ





พ่อค้าซึ่งเป็นจุดที่เราใช้ซื้อของนั้นจะปรากฏตามจุดต่างๆทั่วดินแดน และในช่วงหลังๆเราก็สามารถใช้จุดปรากฏตัวของพ่อค้าเป็นจุดเชื่อมแต่ละโลกได้ โดยเราสามารถเลือกวาร์ปไปยังจุดต่างๆโดยที่ไม่ต้องเดินย้อนไกลๆได้ การเล่นจบรอบแรกแบบไม่เก็บอะไรเป็นพิเศษก็ทำให้เราซื้อของของพ่อค้าได้เกือบหมดเลยทีเดียว





การดำเนินเรื่องราวของเกมค่อนข้างกระชับ ไม่มีฉากเนื้อเรื่องที่เล่าเยิ่นเยื้อให้ชวนง่วงนอน วิธีการเล่าเรื่องบางจุดอาจจะตัดไปตัดมา และใช้ภาษาที่อาจจะทำให้ชาวไทยอย่างเราหลายๆท่านอาจจะงงซักเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเปิดตัวเกมมาแบบไม่มีที่มาที่ไป แต่จะใช้เป็นการเล่าย้อนหรือการพูดผ่านตัวละครเพื่อบอกเรื่องราวในเกมอีกที สไตล์ของเนื้อเรื่องค่อนข้างออกแนวตะวันตกจ๋าแบบ God of War การออกแบบตัวละครมีคนบ่นว่าเหมือน War Craft เลย ตัวพระเอกหนาล่ำบึ้กสไตล์อเมริกัน ศัตรูเป็นพวกเหล่าเดวิลจากนรก ในขณะที่ฝ่ายเทพเจ้าจากสวรรค์กลับดันไปคล้ายกับพวก Angel ใน DMC 4 - -" การออกแบบการสู้กับบอสมีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจน เราต้องใช้ทั้งฉากและอาวุธที่ได้มาเพื่อหาวิธีปราบ เลิกคิดไปได้เลยกับการหลับหูหลับตาฟันแล้วผ่านเหมือนเกมฝรั่งปกติ

กราฟฟิคของเกมค่อนข้างสวย แม้จะติดว่าโมเดลตัวละครไม่ได้เป็นที่น่าจดจำมากนัก แต่การออกแบบฉากโลกกว้าง และการสร้างเอฟเฟคในหลายๆจุดก็ถือว่าสร้างความประทับได้ระดับนึง ระบบเสียงปานกลาง การโหลดออกแบบมาไหลลื่นมากจนแทบจะไม่ค่อยได้เจอฉาก Loading เลย แม้จะเล่นจากแผ่นโดยตรงไม่ได้ Install





เกมมีความยาวประมาณ 15 ชั่วโมงสำหรับการเล่นรอบแรกแบบติดบ้างไม่ติดบ้าง เกมนี้ไม่มีระบบเซฟหลังเล่นจบ ดังนั้นถ้าจะเก็บของสะสม (อ้อ เกมนี้มีระบบเก็บตราที่เจอระหว่างเกมได้ด้วย แต่ไม่รู้ได้ครบแล้วเอาไปทำอะไรได้นะ) หรือจะอัพเกรตหรือจะซื้อของให้หมดนั้น เราสามารถทำได้เลยโดยไม่ต้องรอเล่นซ้ำ เพราะเซฟสุดท้ายที่เรามีก็เป็นเซฟก่อนเจอบอสใหญ่นั่นแล่ะ ระบบเซฟทำได้ทุกที่นะ นอกจากนี้มีระบบ way point ที่พอตายแล้วจะเริ่มจากจุดที่ใกล้ที่สุด บางทีใกล้มากจนเหมือนกับว่าตกเหวตาย มันก็เริ่มใหม่จากปากเหวตรงนั้นเลยล่ะ - -" บางทีที่น่ากลัวคือเกมมันมีระบบจดจำการเปลี่นยแปลงในเกมไว้ให้ด้วย ถ้าเราเคลื่อนย้ายของอะไรไว้ตรงไหน ตายแล้วเริ่มใหม่ มันก็ไม่ reset ให้ด้วย (จนคนในบอร์ดได้เจอบั้กจนต้องเล่นใหม่มาแล้วก็มี อิอิ)





สรุปแล้ว Darksiders เป็นเกมที่ดึงเอาจุดเด่นของเกมดังๆมาไว้อย่างลงตัว การ Implement ของเกมนี้ไม่ใช่แค่การหลับหูหลับตาก้อปปี้มาใช้ แต่เป็นการเลือกองค์ประกอบสำคัญๆที่ทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมนี้สนุก ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป แม้อาจจะรู้สึกได้ว่าเกมมันมีนู่นนี่นั่นให้ใช้ยุบยั้บเต็มไปหมดก็ตาม ความพอดีที่ใส่มาให้กับระบบต่อสู้ และปริศนา ถือว่ายอดเยี่ยมมาก สามารถเรียกตัวเองได้ว่าเป็นเกม Action Adventure แบบเต็มตัวจริงๆ เกมมีพัฒนาการให้กับตัวเอกของเราตลอดเวลาและมีปริศนาผ่านฉากที่ค่อนข้างท้าทายซึ่งเป็นหลักการออกแบบเกมฝั่งญี่ปุ่น ที่ต้องถือว่าแปลกใจมากที่ฝรั่งเอามาทำได้ถึงขนาดนี้ ถ้าใครชอบเกมแนวนี้แนะนำว่าไม่อยากให้พลาดเลย



credit www. gconsole.com


 

ด้วยฟังค์ชั่น ตอบด่วน คุณสามารถใช้โค๊ดและ เครื่องหมายแสดงอารมณ์ได้ เหมือนการตั้งกระทู้ธรรมดา แต่สามารถทำได้สะดวกกว่า

ระวัง: หัวข้อนี้ไม่มีการอัพเดทมานานถึง 120 วัน

แจ้งเตือน: โพสของคุณจะไม่แสดงจนกว่าผู้ดูแลจะอนุมัติ.
ชื่อ: อีเมล์: